วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2561

วิธีกำจัดขบะ

การจัดการขยะมูลฝอยที่ถูกต้องนั้นจะต้องดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบโดยจะต้อง
ดำเนินการตั้งแต่การลดปริมาณการเกิดขยะ การเก็บรวบรวม การขนส่งขยะ ตลอดจนการกำ จัดขยะอย่าง
ถูกหลักสุขาภิบาล สามารถสรุปหลักการกำ จัดขยะที่ถูกสุขาภิบาลได้ดังนี้
  1. การฝังกลบ เป็นการกำจัดขยะโดยใช้วิธี การเทกองในพื้นที่ซึ่งจัดเตรียมไว้ ใช้เครื่องจักรกลเกลี่ยและบดอัดให้ยุบตัวลงแล้วใช้ดิ้นกลบทับบดอัดให้แน่น หลังจากนั้น จะนำขยะมาเกลี่ยและอัดบดเป็นชั้น ๆ สลับด้วยชั้นดินกลบ เพื่อป้องกันปัญหาเรื่อง กลิ่น แมลง นํ้าฝนชะล้าง การกำจัดด้วยวิธีนี้จะใช้กำ จัดขยะทุกประเภท ทำ ได้ไม่ยาก ค่าใช้จ่ายในการดำ เนินการถูก แต่มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่และเมื่อดำ เนินการเสร็จแล้วยังสามารถใช้ประโยชน์ได้ เช่น สนามกีฬา สวนสาธารณะ
  2. การเผา หมายถึง การเผาด้วยเตาเผาที่มีความร้อนสูง ขยะที่เข้าเตาเผาควรมีสภาพค่อนข้างแห้งเผาไหม้ได้
วิธีนี้จะมีประสิทธิภาพมาก สามารถลดปริมาตรขยะลงได้ประมาณร้อยละ 80–90 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการกำจัดขยะติดเชื้อ เพราะจะเป็นการฆ่าเชื้อโรคด้วยความร้อน ผลจากการเผาไหม้จะเกิดแก๊สต่าง ๆ ฝุ่น ขี้เถ้า จึงต้องมีอุปกรณ์กำ จัดฝุ่นละอองและแก๊สพิษ
  1. การทำ ปุ๋ยหมัก วิธีนี้เป็นการกำ จัดขยะที่สะดวกที่สุด และค่าใช้จ่ายน้อย ผลผลิตที่ได้สามารถนำไปใช้เป็นสารปรับปรุงดิน ขยะที่นำ มาทำ ปุ๋ยหมักจะเป็นพวกขยะเปียก
  2. การนำ ไปเลี้ยงสัตว์ การนำไปเลี้ยงสัตว์จะใช้ พวกเศษอาหาร เศษผัก และเศษผลไม้
  3. การคัดแยกขยะ เป็นวิธีการแรกที่มีความจำเป็น ต่อการจัดการขยะมูลฝอยอย่างมากที่จะทำ ให้นักเรียนได้เห็นความสำคัญของขยะ เนื่องจากขยะบางอย่างมีค่าสามารถนำ ไปรีไซเคิล นำไปจำหน่าย นำ กลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ ขยะที่ไม่มีมูลค่าหากย่อยสลายได้ให้นำ ไปทำ ปุ๋ยหมัก หากย่อยสลายได้ยากให้นำ ไปกำ จัดด้วยวิธีการอื่น ๆ โดยมีการคัดแยกขยะตามประเภทของขยะ เช่น ขยะเปียก ขยะแห้ง ขยะทั่วไป และขยะอันตราย เทศบาลตำบลปากแพรก (2545) ได้กำหนดสีของถังรองรับขยะมูลฝอยจัดวางตามที่สาธารณะ ดังนี้
…1) สีเขียว สำ หรับขยะเปียก ได้แก่ เศษผัก ผลไม้ เศษอาหาร ใบไม้ เป็นต้น
2) สีเหลือง สำ หรับขยะแห้ง หรือขยะที่สามารถนำ มารีไซเคิลได้ ได้แก่ แก้ว ขวดพลาสติก เศษกระดาษ โลหะ อลูมิเนียม เป็นต้น
3) สีฟ้า สำ หรับขยะทั่วไปที่ย่อยสลายได้ยาก ไม่เป็นพิษเป็นภัยแต่รีไซเคิลได้ยาก ได้แก่ พลาสติกห่อลูกอม ซองบะหมี่สำเร็จรูป ถุงพลาสติกเปื้อนอาหาร โฟมเปื้อนอาหาร ฟอล์ยเปื้อนอาหาร เป็นต้น
4) สีเทาฝาแดง สำ หรับขยะที่มีอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ หลอดไฟ ขวดยา ถ่านไฟฉาย กระป๋องสีสเปรย์ กระป๋องยาปราบศัตรูพืช ภาชนะบรรจุสารอันตรายต่าง ๆ…
ข้อดีในการคัดแยกขยะ คือ สามารถนำ เอาเศษวัสดุที่หมดประโยชน์แล้วนำ กลับมาใช้ประโยชน์
ได้อีก จึงช่วยประหยัดทรัพยากรธรรมชาติได้เป็นอย่างดี
ข้อเสียในการคัดแยกขยะ คือ ไม่สามารถที่จะกำ จัดขยะมูลฝอยที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้อาจก่อให้เกิดอันตรายจากสารเคมี และเชื้อโรคที่ปนเปื้อนอยู่กับขยะมูลฝอย นอกจากนี้วัสดุที่คัดแยกไม่ค่อยมีตลาดต้องการ จำหน่ายได้ในราคาต่ำไม่คุ้มค่าใช้จ่าย

วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ตำนานถํ้าหลวงขุ่นนํ้านางนอน

ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ปากถ้ำเป็นห้องโถงกว้างกว่า 15 เมตร ภายในถ้ำมีหินงอก หินย้อย ธารน้ำ และถ้ำลอด ซึ่งมีตำนานเล่าขานถึงความรัก อันเป็นที่มาของชื่อของ "ขุนน้ำนางนอน" หรือ "ดอยนางนอน"
วันนี้ (26 มิ.ย.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน หรือดอยนางนอน อยู่ในพื้นที่ ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยนางนอน มีเนื้อที่ประมาณ 5,000 ไร่ กรมป่าไม้ได้ประกาศจัดตั้งเป็นวนอุทยานเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2529 โดยหน่วยงานที่ดูแลหลักคือ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย โดยถ้ำหลวง เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ปากถ้ำเป็นห้องโถงกว้างมากภายในถ้ำจะพบกับความงามของ เกล็ดหินสะท้อนแสง หินงอก หินย้อย ธารน้ำ และถ้ำลอด ภายในถ้ำและยังมีถ้ำเล็กๆ อีก 3 แห่งในบริเวณเดียวกัน
ขณะที่ข้อมูลของอาจารย์พรชัย เขียวสาคู ได้ระบุเกี่ยวกับตำนานของถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ว่า ณ เมืองเชียงรุ้ง สิบสองปันนา มีเจ้าหญิงองค์หนึ่งมีพระรูปงดงามเป็นที่ยิ่ง ได้แอบรักกับชายเลี้ยงม้าในวัง จึงหนีตามกันมาถึงที่ราบใกล้แม่น้ำโขง เมื่อเดินทางไปถึงที่นั่น เจ้าหญิงก็ทรงครรภ์ได้หลายเดือนแล้ว จึงเสด็จต่อไปไม่ไหว บอกพระสวามีว่าจะประทับรออยู่ที่นั่น สวามีก็บอกว่าจะไปหาอาหารมาให้ อย่าไปไหนนะ
ชายหนุ่มก็ไปแล้วไปลับไม่กลับมาเสียที มาได้ข่าวอีกที ปรากฏว่าถูกฆ่าโดยทหารของพระราชบิดาเจ้าหญิงที่สะกดรอยตามมานั่นเอง ด้วยความเสียใจ นางจึงใช้ปิ่นปักผม แทงพระเศียรของพระองค์จนเลือดไหลออกมาเป็นสาย กลายเป็นแม่น้ำแม่สายในทุกวันนี้และพระวรกายของพระองค์ที่นอนเหยียดยาวจาก ทิศใต้จรดทิศเหนือ ก็กลายเป็นดอยนางนอนจนทุกวันนี้ โดยส่วนของพระอุทร (ท้อง) ก็เป็นดอยตุง
ทางไปอำเภอแม่จัน มีขุนเขาทอดตัวคล้ายผู้หญิงนอนเหยียดยาว เรียกว่า ดอยนางนอน เดิมชื่อ ดอยตายสะ หรือดอยสามเส้า ซึ่งเกี่ยวกันกับตำนานลาวจก เทวบุตรอย่างแนบแน่น ดอยส่วนที่ศีรษะเรียกว่า ดอยจ้อง หรือดอยจิกจ้อง (เดิมเรียกดอยนี้ว่า ดอยท่าหรือดอยต้า) เป็นดอยของลูกชายปู่เจ้าลาวจกที่รอคอยพ่อ ดอยลูกถัดมาเรียกว่า ดอยย่าเฒ่า ซึ่งเป็นภรรยาของปู่เจ้าลาวจก ส่วนดอยอีกลูกหนึ่งคือ ดอยดินแดง หรือดอยปู่เจ้าลาวจก หรือเป็นที่รู้จักกันดีในนามของ ดอยตุง
เชื่อกันว่า ดอยทั้ง 3 นี้เป็นที่อยู่อาศัยเดิมของลาวจักราช ผู้เป็นต้นวงศ์ของพญามังราย ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายมาสร้างเมืองหิรัญนครเงินยาง เหนือดอยดินแดงเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุดอยตุง อันถือเป็นปฐมธาตุแห่งแรกของภาคเหนือ
กลอนดอยนางนอน
ขุนคีรีนี่หรือคือซากรัก หญิงอกหักธิดาสาวเจ้าเชียงรุ้ง
รักวิบัติจึงพลัดพรากหนีจากกรุง นางหมายมุ่งมาถิ่นดินแดนไทย
ทัพบิดายกมาทันหวาดหวั่นจิต คร่ำครวญคิดคิดถึงคนรักจักทำไฉน
คืนพม่าท่าจะม้วยด้วยอาลัย ยอมตักษัยให้รู้อยู่เชียงราย
นางใช้ปิ่นปักผมทิ่มแทงขมับ ชีพลาลับเลือดกระเซ็นเป็นเส้นสาย
เป็นขุนน้ำนางนอนไหลไม่ขาดคลาย ร่างวางวายกลายเป็นเขาแสนเศร้าเอย

การปลูกตะบองเพชร

กระบองเพชร ตะบองเพชร

กระบองเพชร บรรได
credit: imgrum.org
ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับกระบองเพชรกันก่อนดีกว่า “กระบองเพชร” เป็นพืชชนิดหนึ่งที่อยู่ในทะเลทราย ต้นกระบองเพชรสามารถยืนต้นอยู่ได้ แม้อยู่ในทะเลทรายที่แห้งแล้งกันดารไม่มีน้ำเพียงสักหนึ่งหยดก็ไม่ตาย เนื่องจากว่าเจ้าต้นกระบองเพชรสามารถเก็บน้ำไว้ในลำต้นได้เป็นจำนวนมาก และเปลี่ยนใบเป็นหนามเพื่อลดการคายน้ำ ดังนั้นมันจึงสามารถอยู่ในทะเลทรายได้อย่างสบายๆ นอกจากนี้นะ กระบองเพชรยังมีสรรพคุณทางสมุนไพรอีกด้วย คือมันสามารถใช้บรรเทาโรคบิดได้ อีกทั้งสารสกัดจากกระบองเพชรยังช่วยลดอาการเมาค้างได้อีกด้วย
การเลี้ยงและดูแลกระบองเพชรก็ไม่ใช่เรื่องยาก  แต่ที่เลี้ยง ๆ แล้วตาย นั่นเป็นเพราะดูแลเขาอย่างผิดวิธีนั่นเอง  ธรรมชาติของกระบองเพชรส่วนใหญ่เกิดในทะเลทราย ที่โดนแสงแดดจัดทั้งวัน

การเลี้ยงและดูแล

ในบ้านเรา ถ้าเราไปซื้อกระบองเพชรจากร้านค้ามา ในการเลี้ยงดูของฟาร์มแต่ละฟาร์มนั้น ส่วนมากเขาจะเลี้ยงกันในโรงเรือนแบบปิด มีหลังคาเป็นหลังคาโปร่งแสงเพื่อให้แสงแดดส่องเข้ามาได้ตลอดทั้งวัน แต่จะกันน้ำกันฝนที่ตกลงมาเพียงเท่านั้นเอง การรดน้ำ ก็จะทำการรด 3-5 วันต่อครั้ง ดังนั้น เวลาที่เราไปซื้อหามาแล้วเอาพวกเขาไปตั้งบนโต๊ะทำงาน ห้องรับแขก โดยทันที แบบนี้ สักพักก็เตรียมเงินไว้ซื้อใหม่ได้เลยค่ะ เพราะพวกเขาจะค่อย ๆ ตายไปแบบที่คุณเองก็ไม่รู้ตัว

สถานที่ปลูกเลี้ยง 

การดูแลให้พวกเขางดงาม สวยเหมือนตอนที่ซื้อมา ที่ควรทำก็ต้องทำการเลี้ยงดูให้เหมือนกับฟาร์มนั่นแหละค่ะ เป็นโรงเรือนหลังคาใส แต่ว่าจะให้ทำแบบนั้นก็คงลำบากจนเกินไป ดังนั้น เราก็ต้องค่อย ๆ ให้พวกเขาปรับตัวทีละนิด เช่น วางพวกเขาไว้ที่ระเบียงที่โดนแดดเกือบทั้งวัน สำหรับคนที่พักอยู่ตามหอพัก ห้องพัก อพาร์ทเม้นท์ หรือคอนโด ที่หันหน้ารับกับแสงพระอาทิตย์เต็มๆก็คงโชคดีหน่อย แต่ถ้าไม่มีแสงแดดเลย ก็ไม่ควรซื้อพวกเขามาเลี้ยงเลยนะคะ ตายเสียเปล่า ๆ
ต้นกระบองเพชร โรงเรือนcredit: secretspacethai.com
สำหรับคนที่อยู่บ้านมีสนามมีพื้นที่ที่โดนแดดจัดทั้งวัน ก็จะดีมาก สามารถเอาพวกเขาไปตากแดดได้เต็มวันเลยทีเดียว แต่ถ้าเป็นช่วงหน้าฝน ก็หาขวดพลาสติกใสมาตัดด้านก้นขวดออก แล้วครอบต้นแคคตัสไว้เป็นต้น ๆ เลยก็จะป้องกันน้ำฝนได้ดีค่ะ ด้านปากขวดไม่ต้องปิดฝานะ อากาศจะได้ระบายถ่ายเทได้ แต่ถ้ามีหลายๆ ต้น ก็ทำหลังคาใสมาบังไว้เลยก็จะดีมากค่ะ
กรณีที่อยากเอามาวางประดับบนโต๊ะบ้าง ก็ยังสามารถทำได้นะคะ ก็คือเลี้ยงสักหลาย ๆ ต้นหน่อย แล้วเวียนเอาพวกเขามาตั้งประดับสัก 2-3 วัน แล้วก็เอาออกไปเปลี่ยนคืนนั่นเอง การทำแบบนี้ ก็ใช่ว่าจะดีนะคะ แค่สามารถยืดชีวิตพวกเขาไปได้นานขึ้นก็เท่านั้นเอง นาน ๆ ไป ก็อาจจะแคระแกรนได้เช่นกันค่ะ แสงแดดจำเป็นต่อชีวิตพวกเขามาก เป็นพันธุ์หนาม หนามก็จะยาวสวยงาม เป็นพันธุ์ขนขาวปุย ก็จะขาวหนานุ่มสวยงามเช่นกัน

การดูแลรดน้ำ

มาว่าถึงอีกเรื่องที่สำคัญก็คือ การให้น้ำ แคคตัสเป็นพืชที่ไม่ชอบน้ำมาก ให้น้ำมากคือการฆ่าพวกเขาให้ตายนั่นเอง การเอาตัวรอดในเรื่องน้ำ พวกเขาพัฒนามาเป็นล้าน ๆ ปีแล้ว นั่นคือลำต้นที่อวบอิ่มเก็บกักน้ำไว้ภายในนั่นเอง
ให้สังเกตดินปลูกเลี้ยงว่าแห้งแล้วหรือยัง ถ้าแห้งแล้วก็ให้ใช้ฝักบัวรดให้ชุ่ม ส่วนระยะเวลาห่างในการรดน้ำ สังเกตุง่าย ๆ หลังจากที่เรารดน้ำไปวันแรก ให้เช็คดูว่า อีกกี่วันดินถึงจะแห้ง เมื่อดินแห้งแล้วให้เว้นไปอีก 1 วัน แล้วค่อยรดน้ำใหม่ โดยให้ปล่อยดินได้แห้งบ้าง ไม่ใช่ชุ่มฉ่ำเปียกอยู่ตลอดเวลา ขนาดของกระถางเล็ก กระถางใหญ่ ก็มีผลกับระยะในการแห้งของดิน โดยเฉลี่ยแล้วจะรดประมาณ 4-5 วันครั้ง ถ้าเป็นไม้ต่อที่ต้องการน้ำมากหน่อย ก็จะรดวันเว้นวัน ถ้าเป็นกลุ่มฮาโวเทียจะรดพร้อมกับแคคตัส แต่จะสเปรย์น้ำให้วันเว้นวัน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์อีกต่างหากค่ะ
กระบองเพชร ในกระถางจิ๋วcredit: jr-rsu.net

การใส่ปุ๋ย

เราสามารถใช้ปุ๋ยกล้วยไม้ให้กับกระบองเพชรได้ แต่ควรใช้ในปริมาณที่ต่ำกว่าฉลากข้างขวดระบุไว้  ไม่ควรให้ปุ๋ยกับกระบองเพชรในปริมาณมาก เพราะอาจเกิดผลร้ายมากกว่าผลดี
วิธีให้ปุ๋ยให้ได้ผลดีคือ ผสมให้เจือจางกว่าปกติ แต่รดให้บ่อยกว่าปกติ ใช้ปุ๋ยกล้วยไม้ 1 กรัม ต่อน้ำ 1 ลิตร รดทุก ๆ 2 สัปดาห์ก็พอค่ะ
การให้ปุ๋ยแก่ต้นไม้ทุกชนิด ควรเริ่มให้เมื่อต้นไม้สามารถตั้งตัวได้ดีแล้ว ระบบรากเดินดีพร้อมที่จะกินอาหารได้ เวลาที่เราเปลี่ยนกระถางใหม่ ๆ ควรงดปุ๋ยไปจนกว่ายอดของต้นจะเริ่มเดิน นั่นหมายถึงสัญญานว่า ระบบรากเริ่มทำงานแล้ว  การรักษาระยะเวลาให้สม่ำเสมอในการให้ปุ๋ย จึงเป็นสิ่งควรยึดถือเป็นหลักในการปฏิบัติ เพื่อสุขภาพที่ดีของกระบองเพชรค่ะ
ส่วนยาฆ่าแมลงหรือยาป้องกันเชื้อราต่าง ๆ ผสมน้ำรดทุก ๆ 2-3 เดือน ต่อ 1 ครั้งก็เพียงพอแล้ว

การปลูกหรือเปลี่ยนกระถาง 

กระบองเพชร กระถางcredit:  ugaoo.com
การเปลี่ยนกระถางจะกระทำเมื่อต้นโตคับกระถางเก่า แต่อย่าลืมว่าต้องใช้ดินปลูกโดยเฉพาะเท่านั้น จะซื้อแบบที่เป็นถุงสำเร็จรูปสำหรับปลูกกระบองเพชรโดยเฉพาะ หรือจะผสมเองก็แล้วแต่เลย สูตรสำหรับดินก็มีให้เลือกหลากหลายมากมายอยู่เหมือนกันค่ะ สำหรับส่วนประกอบหลักที่เราจะผสมลงไปก็ได้แก่
เนื้อดิน เช่น ดินขุยไผ่  ดินใบก้ามปู ดินที่ผสมใบไม้หมักต่าง ๆ  แกลบ ขุยมะพร้าว พีทมอส หรือ มูลสัตว์ต่าง ๆ
วัสดุที่ช่วยเพิ่มความโปร่งให้ดิน เช่น เพอร์ไลท์ (Perlite) หินภูเขาไฟ (Pumice) เวอร์มิคูไลท์ (Vermiculite) กรวดแม่น้ำ มะพร้าวสับ ถ่าน
สารเคมีต่าง ๆ เช่น ปุ๋ยละลายช้า ยาฆ่าแมลงแบบเกร็ด (สตาร์เกิ้ลจี ฟูราดาน) ยาฆ่าเชื้อรา
ส่วนประกอบหลัก 3 ส่วนนี้ ควรจะเลือกชนิดที่นำมาผสม ให้เข้ากับความสะดวกในการซื้อหา และให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่นั้น ๆ
ในการผสมดินนั้น เราควรคำนึงถึงความสะอาดของดิน เพื่อไม่ให้เกิดเชื้อรา หรือเชื้อโรคต่าง ๆในวัสดุที่เราจะนำมาผสม เราควรทำความสะอาด หรือ ตากแดดไว้สัก 3–5 วัน ก่อนที่จะนำมาผสม  ส่วนประกอบที่จะนำมาผสม มีธาตุอาหารเพียงพอหรือไม่ ดินมีความโปร่งพอหรือไม่ ดินโปร่งจะทำให้ดินแห้งไว น้ำสามารถซึมผ่านไปได้ทั้งกระถาง ตามธรรมชาติของแคคตัสแล้ว ไม่ได้ต้องการเนื้อดินเยอะ ควรเน้นไปที่วัสดุที่ช่วยความโปร่งให้ดิน แล้วใส่ดินไปประมาณ ¼ ก็เพียงพอแล้ว ข้อสำคัญ หลังจากที่ผสมดินเสร็จแล้ว ควรรดน้ำให้ชุ่ม และตากแดดทิ้งไว้ประมาณ 1-2 อาทิตย์ เราจะได้ดินที่สะอาดและไม่มีความร้อน จากการย่อยสลายตัวของอินทรีย์สารในดิน
ส่วนสูตรดิน มีหลากหลายมาก ขึ้นอยู่กับวัสดุด้วยค่ะ ในที่นี้ ขอใช้สูตรของ Jibi Cactus ค่ะ อีกเรื่องที่สำคัญคือ ขนาดของกระถางต้องเลือกให้เหมาะสมกับขนาดของ กระบองเพชร / แคคตัส ไม่เล็กและใหญ่จนเกินไปด้วยค่ะ
  1. ดินร่วน 1 ถ้วย
  2. ทรายหยาบ 1 ถ้วย
  3. พีทมอส 1 ถ้วย
  4. หินภูเขาไฟ 1 ถ้วย
  5. เพอร์ไลท์ 1 ถ้วย
  6. แกลบดำ ½ ถ้วย
ส่วนวัสดุที่นำมาโรยหน้าดิน ให้เลือกหินที่ไม่คมหรือแหลมเกินไปจนทำให้บาดต้น สีสันให้เข้ากับธรรมชาติ การโรยหน้าดินช่วยป้องกันไม่ได้เศษดินดำ ๆ กระเด็นไปโดนปุยขาว ๆ หรือเลอะโคนต้น เพียงเท่านี้ก็ทำให้แคคตัสของเราดูสวยขึ้นแล้

วิธีกำจัดขบะ

การจัดการขยะมูลฝอยที่ถูกต้องนั้นจะต้องดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบโดยจะต้อง ดำเนินการตั้งแต่การลดปริมาณการเกิดขยะ การเก็บรวบรวม ...